จากกรณีที่ละครดังแห่งปีอย่าง บุพเพสันนิวาส ที่ออกอากาศทางช่อง 3 เกิดเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วพระนคร ซึ่งละครเรื่องนี้เป็นละครที่อิงประวัติศาสตร์ ทำให้คนเข้ามาสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้น รวมไปถึงสถานที่ที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ก็เป้นที่นิยมไม่แพ้กัน อย่างเช่นที่วัดไชยวัฒนาราม ก็ได้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก อย่างสถานที่ วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเป็นฉากเปิดเรื่องของละครเรื่องนี้ ก็ทำให้มีประชาชนเข้าไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก
สำหรับวัดไชยวัฒนารามนั้น หลายคนคงได้เห็นฉากในละครแล้วว่า มีความงดงามมากขนาดไหน ถึงแม้ว่าจะถูกเผาเมื่อครั้งเสียกรุง แต่วัดไชยฯก็ยังคงความสวยงามให้คนรุ่นหลังได้ชมความงดงามของวัดไชยวัฒนาราม แต่หลายคนยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า พระปรางค์ที่วัดไชยนั้น เคยหุ้มด้วยทอง
พระปรางค์วัดไชยวัฒนารามนั้นสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง มีความสูงประมาณ ๓๕ เมตร ผังรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมไม้ยี่สิบ มีปรางค์บริวารเล็กๆ อยู่ ๔ มุม เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือในพุทธศักราช ๒๔๔๔ ในการนมัสการองค์พระพุทธชินราชจำลองและอัญเชิญลงมายังกรุงเทพนั้น ในระหว่างทางเสด็จพระราชดำเนินกลับจากพิษณุโลกลงมายังพระราชวังบางปะอิน ทรงสำรวจวัดไชยวัฒนารามดังนี้
วันที่ ๕ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๐
"...มาถึงวัดป่าโมกข์ทางประมาณสักชั่วโมงหนึ่ง ได้ขึ้นนมัสการพระนอนที่วัดป่าโมกข์ มีราษฎรมาประชุมคอยรับเป็นอันมาก ลงเรือกลไฟเล็กลงมาทางคลองบ้านกุ่ม ออกคลองบ้านใหม่ ทางนี้น้ำลึกสายน้ำเชี่ยวจัดแต่มีคดหลายแห่ง เพราะเหตุน้ำไหลทางคลองนี้แรงจึงทำให้น้ำทางหัวตะพานอ่อนไป แม่น้ำตื้นและแคบลงมาก ซึ่งฉันได้กล่าวไว้แต่ก่อนว่าน่ากลัวจะตัน ลงมาหยุดพักที่วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งเขาได้ถางให้ดู การที่ถางครั้งนี้หมดจดดีมากได้เห็นทั่วถึง องค์ปรางค์ใหญ่นั้นไม่มีลายปูน มีรอยตะปูทั่วไป "เห็นจะหุ้มดีบุกปิดทอง" พระปรางค์ ๔ ทิศก็มีรอยตะปูอย่างเดียวกัน เมรุทิศเมรุแทรกซึ่งยังคงอยู่ทั้งแปด มีพระพุทธรูปทรงเครื่อง ปั้นด้วยปูนลักษณะประธานวัดน่าพระเมรุยังอยู่ดี ตัวไม้เรือนแก้วและเพดานก็ยังไม่มีผุ แต่พระระเบียงซึ่งใช้แทนสามซ้างชำรุดพังทุกด้าน พระพุทธรูปก็หักหมด นอกสามซ้างออกไปมีกำแพงแก้วย่อไม้ ๑๒ อีกชั้นหนึ่ง ชนหลังพระอุโบสถนั้นพังหมดเหลือแต่พระพุทธรูปดีซึ่งน่าจะมี ๓ เหลือ ๒ ตั้งอยู่บนฐานคงที่ มีกำแพงแก้วอีกชั้นหนึ่ง
ถึงแนวหน้าพระอุโบสถมีพระเจดีย์รูปเดียว ฝีมือเดียวรูปเดียวกันกับที่วัดชุมพล ตั้งอยู่ในกำแพงแก้วหน้าพระอุโบสถข้างละองค์ มีพระเจดีย์ตั้งอยู่ในกำแพงแก้วไม้ ๑๒ องค์หนึ่งพระปรางค์ชักมุขขนาดย่อมตั้งอยู่นอกกำแพงแก้วชั้นนอกอีกองค์หนึ่ง เห็นจะสร้างเติมขึ้นภายหลัง การทั้งปวงน่าจะไม่แล้วสำเร็จทีเดียวนัก ตามเมรุทิศยังมีไม้กันคราก ซึ่งและเห็นว่าไม่ได้คิดจะเอาไว้ประดับ เสาลงรักแต่ยังไม่ได้ปิดทอง ถ้าจะผิดก็จะเป็นแต่ไม่คิดจะปิด พวกราษฎรพากันมาคอยรับเป็นอันมาก ออกจากวัดไชยวัฒนาราม ล่องลงมาบางปะอินเวลาบ่าย ๒ โมงเศษ
สำหรับวัดไชยวัฒนาราม หรือ วัดชัยวัฒนาราม เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง
วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง พ.ศ. ๒๑๗๓ โดยเดิมบริเวณที่ตั้งของวัดแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพระราชมารดาที่ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่พระเจ้าปราสาททองได้เสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์ เมื่อพระองค์ได้เสวยราชสมบัติ พระองค์จึงได้สร้างวัดไชยวัฒนารามขึ้นเพื่ออุทิศผลบุญนี้ให้กับพระราชมารดาของพระองค์ และอีกประการหนึ่งวัดนี้อาจถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมรด้วย จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด นอกจากนี้เรื่องของพระปรางค์วัดไชยวัฒนารามหุ้มทองนั้น อาจจะเป็นเรื่องจริง เนื่องด้วยสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาททอง หากมีการหุ้มด้วยทองจริง ก็สันนิษฐานได้ว่า พระสมัญญานาม " พระเจ้าปราสาททอง" ก็น่าจะมาจากการสร้าง วัดไชยวัฒนารามแห่งนี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ กรุงเทพทวารวดีศรีอยุธยา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น