ครอบครัว น้องลิ้นจี่ เผย ลูกยังไม่ได้รับปริญญา กำลังจะเริ่มงานวันแรก ถูกรถชนสมองตาย ตอนนี้เซ็นเอกสารยินยอมไม่ปั๊มหัวใจน้องลิ้นจี่ หากหยุดเต้น ด้านพี่สาวคู่กรณีเผย น้องชายมัวแต่ก้มดูมือถือ ไม่ทันระวัง หากน้องชายผิด ยินดีรับผิดชอบ
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
จากกรณี น้องลิ้นจี่ นักศึกษาสาวจบใหม่ เดินทางไปทำงานวันแรก ขณะข้ามทางม้าลายก็ถูกหนุ่มขี่รถบิ๊กไบค์พุ่งเข้าชน จนกระดูกบริเวณขาหัก 5 ท่อน, แขนหัก และสมองตาย อาการโคม่า ทำคนเป็นพ่อแม่หัวใจสลาย หวังปาฏิหาริย์ให้ลูกสาวฟื้นกลับมาเป็นปกตินั้น
อ่านข่าว : นศ. จบใหม่ ทำงานวันแรก ถูกบิ๊กไบค์ชนตอนข้ามทางม้าลาย ทำโคม่าสมองตาย
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (6 กรกฎาคม 2562) ทุบโต๊ะข่าว รายงานว่า เพื่อนของน้องลิ้นจี่ เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดอุบัติเหตุ น้องลิ้นจี่ยังมีสติอยู่ แต่หลังจากนั้นน้องลิ้นจี่ก็เริ่มอาเจียน พอเอกซเรย์รอบที่สองก็พบว่า กระดูกขาหัก 5 ท่อน กระดูกไหล่ขวาหัก มีเลือดคั่งในสมอง และอาการเริ่มทรุดลงเรื่อย ๆ ผ่านไป 2 วัน ร่างกายของน้องลิ้นจี่เริ่มไม่ขยับ และมีบางช่วงที่หยุดหายใจ คุณหมอบอกว่าน้องลิ้นจี่มีโอกาสรอดชีวิตแค่ 10 เปอร์เซ็นต์
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทางด้านคุณพ่อและคุณแม่ของน้องลิ้นจี่ เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า น้องลิ้นจี่เป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร ซึ่งน้องเพิ่งจะเรียนจบ และกำลังจะเริ่มต้นชีวิตของการทำงาน ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น ก็เคยเจอกับหนุ่มคู่กรณีแค่ครั้งเดียว และไม่เคยมาเยี่ยมลูกสาวเลย ซ้ำยังพูดแบบไม่สำนึกในทำนองที่ว่า ถ้าหากไม่มีหลักฐานก็จะไม่รับผิดชอบ
โดยสิ่งที่ทางครอบครัวกังวลที่สุดก็คือ ขณะนี้ได้มีการเซ็นเอกสารยินยอมในการไม่ให้ปั๊มหัวใจน้องลิ้นจี่ ถ้าหากน้องหยุดหายใจ แต่ตอนนี้หัวใจของน้องยังเต้นอยู่ คุณหมอจึงให้อยู่ไปแบบนี้ก่อน ซึ่งทางครอบครัวรู้สึกรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะน้องเพิ่งเรียนจบมาใหม่ ๆ และยังไม่ได้รับปริญญาเลย
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ทั้งนี้ พี่สาวของคู่กรณี กล่าวว่า หากฝ่ายน้องชายผิด ก็ยินดีที่จะรับผิดชอบ นอกจากนี้ ทางน้องชายเองก็เพิ่งจะเริ่มงานวันแรกเหมือนกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น